กาแฟที่ปลูกอย่างมีความรับผิดชอบ
เราใช้วิธีแบบองค์รวมในการรับซื้อกาแฟ ด้วยแนวทางปฏิบัติในการรับซื้ออย่างมีความรับผิดชอบ การให้เงินกู้ยืมแก่ชาวไร่กาแฟ และโครงการอนุรักษ์ป่าไม้
การซื้อกาแฟอย่างมีความรับผิดชอบจะช่วยสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้กับชาวไร่กาแฟ ช่วยรักษาสภาพภูมิอากาศของโลกให้มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น และช่วยให้มีการรับซื้อกาแฟคุณภาพสูงในระยะยาว ซึ่งเราได้นำกาแฟเหล่านั้นมาผสม คั่วอบ และบรรจุอย่างพิถีพิถันมาเป็นเวลากว่าสี่สิบปี
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนานาชาติ ได้ช่วยพัฒนาแนวปฏิบัติในการรับซื้อ โดยยึดหลักการรับซื้อกาแฟอย่างมีจริยธรรมของเรา แนวปฏิบัติดังกล่าวเรียกว่า Coffee and Farmer Equity (C.A.F.E.) Practices ซึ่งช่วยให้ชาวไร่กาแฟของสามารถเพาะปลูกกาแฟได้ดียิ่งขึ้น ทั้งต่อตนเองและต่อโลก C.A.F.E. Practices ประกอบด้วยข้อกำหนดมาตรฐานที่ใช้ชี้วัด 4 ประการ ดังนี้
คุณภาพของผลิตภัณฑ์ (ข้อบังคับ):
กาแฟที่ผลิตทั้งหมดต้องตรงตามมาตรฐานคุณภาพสูงของสตาร์บัคส์
ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ทางเศรษฐกิจ (ข้อบังคับ):
การปฏิบัติงานต้องมีความโปร่งใส ซัพพลายเออร์ต้องส่งหลักฐานการชำระเงินในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตและจัดส่งกาแฟ เพื่อแสดงว่าเงินที่สตาร์บัคส์ได้จ่ายเพื่อซื้อกาแฟสด (ที่ยังไม่ได้คั่ว) นั้นถึงมือชาวไร่เป็นจำนวนเท่าใด
ความรับผิดชอบต่อสังคม (ประเมินโดยผู้ตรวจสอบภายนอก):
มีการใช้มาตรการต่างๆ ที่ได้รับการประเมินโดยผู้ตรวจสอบจากภายนอก เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสภาพการทำงานนั้นปลอดภัยและเป็นธรรม รวมถึงมีการปกป้องสิทธิของคนงานและจัดหาที่อยู่อาศัยที่มีสภาพเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดแบบบังคับให้ปฏิบัติตามกฎหมายด้านค่าจ้างขั้นต่ำ แรงงานเด็ก และการบังคับใช้แรงงาน
ความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม (ประเมินโดยผู้ตรวจสอบภายนอก):
มีการใช้มาตรการในการจัดการของเสีย การรักษาคุณภาพน้ำ การรักษาทรัพยากรน้ำและพลังงาน การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการลดการใช้สารเคมีในการเกษตร
Fair Trade เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
โครงการกาแฟ Fairtrade ส่งเสริมกลุ่มชาวไร่กาแฟขนาดเล็กที่รวมตัวกันเป็นสหกรณ์ เพื่อลงทุนในไร่และชุมชนของตนเอง ปกป้องสิ่งแวดล้อม และพัฒนาทักษะการดำเนินธุรกิจที่จำเป็นในการแข่งขันบนเวทีตลาดโลก
สตาร์บัคส์ได้เริ่มจัดซื้อกาแฟ Fairtrade ตั้งแต่ปี 2000 และนับแต่นั้นเป็นต้นมา เราได้ชำระค่าดำเนินการแบบพรีเมียมในโครงการ Fairtrade ไปกว่า 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (บวกเพิ่มไปกับราคาจำหน่ายของกาแฟสดก่อนคั่ว) ซึ่งค่าดำเนินการแบบพรีเมียมจะถูกนำไปใช้โดยองค์กรของผู้ผลิตในการลงทุนด้านสังคมและเศรษฐกิจในระดับชุมชนและองค์กร นอกจากนี้ ยังมีการจ่ายเงินไปกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการริเริ่มจัดทำใบอนุญาต Fairtrade ซึ่งสนับสนุนระบบการรับรองระดับนานาชาติ (FLO-Cert) บริการต่างๆ แก่ผู้ผลิต และการส่งเสริมการตระหนักถึงผลประโยชน์จาก Fairtrade
กาแฟออร์แกนิกที่ได้รับการรับรอง เพื่อโลกที่ดีกว่าเดิม
วิธีและวัสดุที่ใช้ในการเพาะปลูกกาแฟออร์แกนิกส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าการเพาะปลูกประเภทอื่น เนื่องจากการเพาะปลูกแบบออร์แกนิกช่วยฟื้นคืนสภาพและรักษาคุณภาพของดิน ลดการใช้ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยที่เป็นพิษตกค้าง อีกทั้งยังเป็นการทำการเกษตรที่รักษาความหลากหลายทางชีวภาพ
ในปีงบประมาณ 2011 สตาร์บัคส์ได้ซื้อกาแฟออร์แกนิกที่ผ่านการรับรองกว่า 10 ล้านปอนด์ ตัวอย่างเมนูเครื่องดื่มออร์แกนิกที่เราเสิร์ฟ ได้แก่ กาแฟผสม Organic Yukon รวมถึงกาแฟนานาชาติและกาแฟ Starbucks Reserve ต่างๆ